มอเตอร์เอ็กซ์โปร์ เปิดตัว 2025 Audi A6 e-Tron Sportback และ Avant ขุมพลังไฟฟ้า บอกลาน้ำมันเปิดตัว All New Audi A6 e-Tron โมเดลปี 2025 มาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วน 100% ตามการปรับไลน์อัพใหม่ของค่าย เพื่อให้ลูกค้าสัมผัสประสบการณ์ขับขี่รถยนต์ไฟฟ้าที่แท้จริง มีให้เลือกทั้งตัวถัง Sportback และ Avant โดยมุ่งเป็นคู่แข่งโดยตรงกับ Mercedes EQE และ BMW i5
A6 จะมีแต่ขุมพลังไฟฟ้าล้วน
การเปิดตัว A6 ขุมพลังไฟฟ้าล้วนครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งของการปรับไลน์อัพรถยนต์เดิม เพื่อสอดคล้องกับแผนใหม่ของบริษัทที่ให้รุ่นเลขคี่เป็นเครื่องยนต์สันดาป และรุ่นเลขคู่เป็นขุมพลังไฟฟ้า โดยเปลี่ยนชื่อ A6 เครื่องยนต์สันดาปเดิมให้เป็น A7 นั่นเอง
ดีไซน์อย่างกับรถคอนเซ็ปต์
A6 e-tron มีดีไซน์ในภาพรวมคล้ายกับรถคอนเซ็ปท์ A6 e-tron Concept (ตัวถัง Sportback) ที่เปิดตัวปี 2021 และ A6 e-tron Avant Concept ที่เปิดตัวเมื่อ 2022 ที่ผ่านมา แต่ในเวอร์ชันผลิตจริงจะต่างไปเล็กน้อย เช่น ไฟหน้าแบบแยกส่วน กระจังหน้าสีดำที่ใหญ่ขึ้น มือจับประตูแบบดั้งเดิม และไฟท้ายแบบเต็มความกว้างของรถ
Audi ระบุว่ารถคันนี้ใช้ไฟหน้า Matrix LED และไฟท้าย OLED เจเนอเรชั่นที่ 2 มาพร้อม digital lighting signature ให้เลือกถึง 8 รูปแบบ ทำงานร่วมกับตรา Audi เรืองแสงที่ด้านท้ายอีกด้วย
นอกจากนี้ ไฟหน้ายังรองรับระบบ adaptive matrix LED, active digital light signature, Car-to-X และกระจกข้างกล้อง virtual mirrors แต่จะมีในบางประเทศเท่านั้น
Audi ให้ความสำคัญกับการพัฒนา A6 e-tron ให้ลู่ลม ด้วยการจำลองในอุโมงค์ลมกว่า 1,300 ครั้ง เพื่อให้เป็นรถ Audi ที่ลู่ลมที่สุดเท่าที่เคยมีมา และเป็นรถจาก VW Group ที่ลู่ลมที่สุดเท่าที่เคยนำเสนอ โดย A6 Sportback e-tron มีค่า Cd อยู่ที่ 0.21 ส่วน A6 Avant e-tron มีค่า Cd อยู่ที่ 0.24 ซึ่งอาวดี้เคลมว่าเป็นรถวากอนที่ลู่ลมที่สุดในคลาส
ภายใน
สำหรับภายในห้องโดยสารมีความคล้ายกับ Audi Q6 e-tron ที่เปิดตัวไปก่อนหน้านี้ มาพร้อมหน้าจอ 3 ส่วน ประกอบด้วย มาตรวัดดิจิทัล 11.9 นิ้ว, หน้าจอกลาง 14.5 นิ้ว และหน้าจอสำหรับผู้โดยสาร 10.9 นิ้ว นอกจากนี้ บริเวณแผงประตูทั้งสองข้างยังมีออพชันหน้าจอ virtual mirrors ที่ทำหน้าที่แทนกระจกข้าง รวมถึงมีระบบ ADAS มากมาย
ออพชันที่น่าสนใจ เช่น หลังคาแก้ว panoramic glass roof ที่เปลี่ยนจากใสไปทึบได้ด้วยปุ่มเดียว, ระบบปรับอากาศ 4 โซน สามารถใส่น้ำหอมและ ionizer ได้, ระบบเสียง Bang & Olufsen Premium Sound System ลำโพง 20 ตำแหน่ง ขนาด 830 วัตต์
ขุมพลังไฟฟ้าล้วน พื้นฐานเดียวกับ Macan EV
Audi A6 e-tron ใช้พื้นฐานแพลตฟอร์ม PPE architecture เช่นเดียวกับ Q6 e-tron และ Porsche Macan EV ในเบื้องต้นมาพร้อมขุมพลังไฟฟ้าล้วน 3 รูปแบบ
Audi A6 e-tron Performance มอเตอร์ไฟฟ้าเดี่ยว ขับเคลื่อนล้อหลัง RWD ให้กำลังสูงสุด 362 แรงม้า (hp)
Audi A6 e-tron quattro มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ ให้กำลังสูงสุด 422 แรงม้า (hp)
Audi S6 e-tron มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ ขับเคลื่อน 4 ล้อ AWD ที่เน้นขับเคลื่อนล้อหลัง ให้กำลังสูงสุด 496 แรงม้า (hp) สามารถทำ 0-100 กม./ชม. ภายใน 3.7 วินาทีด้วย launch control ทำความเร็วสูงสุดได้ที่ 240 กม./ชม.
นอกจากนี้มีภาพสปายช็อตที่แสดงให้เห็นว่า Audi Sport กำลังพัฒนา RS6 e-tron ที่คาดว่าแรงและมีหน้าตาที่ดุดันกว่า S6 e-tron อีกด้วย
ขับได้ไกลสุด 750 กม.
ทั้ง A6 e-tron และ S6 e-tron มาพร้อมแบตเตอรี่ที่พื้นรถความจุ 100 kWh ภายใต้โครงสร้างไฟฟ้า 800V รองรับการชาร์จ DC สูงสุด 270 kW สามารถขับขี่ได้ราว 720 - 750 กม. สำหรับ A6 e-tron และขับได้ถึง 640-670 กม. สำหรับ S6 e-tron ขึ้นกับรูปแบบตัวถัง
Audi ยังยืนยันว่าจะมีรุ่นแบตเตอรี่เล็กกว่าที่ความจุ 83 kWh ในอนาคต ซึ่งคาดว่าจะมีค่าตัวที่เข้าถึงได้มากขึ้น
สำหรับการขับขี่มีระบบช่วงล่างเป็นแบบถุงลม adaptive air suspension ซึ่งปรับความสูงได้ 4 ระดับ เมื่ออยู่ในโหมดประหยัด efficiency mode จะลดพื้นที่ใต้ท้องรถลง 20 มม. ที่ความเร็วสูงเพื่อเพิ่มความลู่ลม
สำหรับล้อใน A6 e-tron รุ่นเริ่มต้นมาพร้อมล้ออัลลอย 19 นิ้ว ขณะที่รุ่น S line และ S6 e-tron จะมาพร้อมล้อ 20 นิ้ว และมีออพชันล้อ 21 นิ้วมาให้ด้วย
2025 Audi A6 e-tron พร้อมสำหรับการสั่งซื้อแล้วในยุโรป ในเยอรมนีมีราคาเริ่มต้นดังนี้
A6 Sportback e-tron Performance เริ่ม 75,600 ยูโรหรือราว 2.9 ล้านบาท
S6 Sportback e-tron เริ่ม 99,500 ยูโรหรือ 3.8 ล้านบาท
ส่วนในรุ่นวากอนหรือ Avant จะต้องเพิ่มเงินอีก 1,650 ยูโรหรืออีกราว 6 หมื่นบาท
ส่วนราคา 2025 Audi A6 e-tron ในประเทศไทย คงต้องรอการเปิดตัวและเปิดราคาอย่างเป็นทางการต่อไป หากมีข้อมูลใดเพิ่มเติมเราจะนำมารายงานให้ได้ทราบกัน