ผู้เขียน หัวข้อ: บริหารจัดการอาคาร: ภัยเงียบจากความชื้นในห้องแอร์  (อ่าน 91 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 500
  • รับโปรโมทเว็บ, บริการโพสประกาศ
    • ดูรายละเอียด
บริหารจัดการอาคาร: ภัยเงียบจากความชื้นในห้องแอร์

เชื่อว่า หลายคนชื่นชอบที่จะอยู่ภายในห้องแอร์ที่มีความเย็น ทำให้เรารู้สึกเย็นสบาย คลายร้อนซึ่งต้องบอกว่า บ้านเราถือว่าเป็นเมืองที่ร้อนอบอ้าวมาก บางวันมีอุณหภูมิสูงถึง 40 องศาจึงไม่แปลกที่ปัจจุบัน หลายบ้านเลือกที่จะติดตั้งเครื่องปรับอากาศเพื่อดับร้อน

แต่ทั้งนี้ ภายในแอร์นั้น ก็มีความชื้นสะสมเป็นจำนวนมาก จึงเป็นสาเหตุที่ทำให้เชื้อโรคเจริญเติบโตได้ง่ายและส่งผลกระทบต่อสุขภาพได้ วิธีการใช้งานแอร์ที่ถูกต้อง คือเราต้องหมั่นล้างแอร์ตามเวลาที่กำหนดหรือถ้าใช้งานเป็นประจำทุกวัน ก็ควรล้างอย่างน้อย ปีละ 3-4 ครั้งเพราะการล้างทำความสะอาดแอร์จะทำให้แอร์ไม่ต้องทำงานหนักและทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพแถมยังช่วยประหยัดค่าไฟอีกด้วย

ในทางกลับกันถ้าหากเราไม่ล้างทำความสะอาดแอร์ก็จะทำให้แอร์ที่การสะสมของเชื้อโรค ทำร้ายสุขภาพของเราได้และยังทำให้แอร์ต้องทำงานหนักกว่าปกติ เปลืองค่าไฟและยังส่งผลเสียต่อสุขภาพร่างกายของเราด้วยซึ่งต้องบอกเลยว่า การใช้งานแอร์แม้ว่าจะช่วยทำให้เรารู้สึกสะดวกสบายแต่ก็มีข้อเสียอาจจะเป็นภัยเงียบที่ทำร้ายสุขภาพของเราได้เช่นเดียวกันหากเราไม่ดูแลความสะอาดภายในแอร์ของเรา


ดังนั้น วันนี้ทางเราจะมาพูดถึงภัยเงียบจากความชื้นในห้องแอร์ซึ่งต้องบอกว่า ความชื้นในแอร์นั้น เป็นเรื่องปกติมาก สามารถเกิดขึ้นได้แต่ทำอย่างไรที่จะช่วยป้องกันความเสี่ยงไม่ให้ส่งผลต่อการเกิดปัญหาสุขภาพของเรา

ต้องบอกก่อนว่า เชื้อราในระบบปรับอากาศ ถือว่าเป็นภัยเงียบที่มองไม่เห็นเชื้อราจะแขวนลอยอยู่ในอากาศ ซึ่งก่อให้เกิดปัญหาทั้งต่อตัวบุคคล เช่น หากผู้ป่วยสูดอากาศที่ปนเปื้อนเชื้อราเป็นระยะเวลานานจะทำให้เกิดโรคทางเดินหายใจ หอบ หืด คัดจมูก โรคผิวหนังบางชนิดเช่น หูด หรือ โรคภายในร่างกาย เช่น ตับ เป็นมะเร็งจากสารอัลฟาท็อกซินจากเชื้อราในอาหารและยังก่อให้เกิดปัญหาในการผลิตจากการเกิดเชื้อราในอาหารตลอดจนถึงทำให้อาคารเกิดเปลี่ยนสี โดยเฉพาะตามผนังอาคารหรือ เกิดกลิ่นเหม็นอับในอาคารและก่อให้เกิดโรคต่างๆ ติดตามกันมา


การออกแบบระบบปรับอากาศที่ดีก็มีส่วนช่วยลดการก่อตัวของเชื้อราในอาคารโดยเชื้อราที่อยู่ในแอร์นั้น จะถูกปล่อยทิ้งไว้โดยไม่จัดการแก้ไขเป็นเวลานานเกินกว่า 48 ชั่วโมงเช่น ตามแนวท่อน้ำ เย็นที่ฉนวนเกิดแตกหรือฉีกขาด ทำให้เกิดการควบแน่นของไอน้ำที่ผิวท่อโดยอุณหภูมิมีส่วนในการเกิดเชื้อรา เพราะส่วนใหญ่เชื้อราจะสามารถมีชีวิตอยู่ได้ที่อุณหภูมิ 0 – 30 °C แต่อุณหภูมิที่เหมาะสมในการเจริญเติบและแพร่พันธุ์จะอยู่ที่ 20 – 30 °C

แต่มีราบางชนิดที่สามารถเจริญเติบโตและแพร่พันธุ์ที่อุณหภูมิ 40 – 50°C  หากพื้นที่ที่มีความชื้นก็จะทำให้เชื้อราเจริญเติบโตและขยายพันธุ์สูงกว่า 60% เลยทีเดียวดังนั้น ทุกครั้งที่เราเปิดแอร์ ควรสังเกตว่าอากาศที่ออกมาจากแอร์ มีกลิ่นเหม็นกลิ่นอับหรือไม่หากมีกลิ่นในเบื้องต้นควรล้างทำความสะอาดแผ่นกรองอากาศที่อยู่ในแอร์ด้วยน้ำสบู่หรือน้ำยาฆ่าเชื้อโรค หรือเรียกช่างมาเพื่อทำความสะอาดอย่างเต็มระบบ

ซึ่งการล้างแอร์เต็มระบบควรล้างอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง แต่หากใช้เป็นประจำควรล้างอย่างน้อย 3 เดือนต่อครั้งเพราะนอกจากลดเชื้อโรคแล้ว ยังช่วยประหยัดไฟฟ้าได้อีกด้วยเรียกได้ว่า ภัยเงียบที่มาจากความชื้นภายในเครื่องปรับอากาศ ถือว่าเป็นอันตรายมากต่อสุขภาพของเราและคนในบ้านเพราะฉะนั้น ควรล้างทำความสะอาดบ่อยๆ บำรุงรักษาให้มากที่สุด เพื่อที่เราจะได้มีแอร์ใช้งานไปได้ยาวๆ

อย่างไรก็ตาม ในเรื่องของระบบปรับอากาศ หรือระบบทำความเย็น ก็สามารถติดต่อทางเราได้ เพราะเรามีบริการดูแลระบบปรับอากาศภายในอาคาร มีช่างแอร์ที่มีความเชี่ยวชาญและประสบการณ์มานานหลายปีสามารถดูแลเครื่องปรับอากาศของคุณได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตามมาตรฐานเพื่อให้ทุกคนได้ใช้งานเครื่องปรับอากาศอย่างเต็มประสิทธิภาพ มีความสะอาดและยังช่วยประหยัดในเรื่องของค่าไฟฟ้าได้ด้วย เพื่อป้องกันการเกิดความเสียหายของเครื่องปรับอากาศและยังให้เครื่องปรับอากาศมีความสะอาดมากยิ่งขึ้น ทำให้มีสิ่งแวดล้อมที่น่าอยู่มากยิ่งขึ้น