ผู้เขียน หัวข้อ: ทำไมผู้ที่จัดฟันใส ไม่ควรดื่มชา และกาแฟ  (อ่าน 99 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 500
  • รับโปรโมทเว็บ, บริการโพสประกาศ
    • ดูรายละเอียด
ทำไมผู้ที่จัดฟันใส ไม่ควรดื่มชา และกาแฟ
« เมื่อ: วันที่ 7 มิถุนายน 2024, 18:49:18 น. »
ทำไมผู้ที่จัดฟันใส ไม่ควรดื่มชา และกาแฟ

การจัดฟันแบบใส เป็นการจัดฟันที่ได้รับความนิยมมากในหมู่ดารา นักแสดง รวมไปถึงผู้ที่มีปัญหาสุขภาพฟันเพียงเล็กน้อยถึงปานกลาง มักจะนิยมเข้ารับการจัดฟันแบบใส เพราะด้วยความที่สามารถถอดเครื่องมือจัดฟันได้ จึงมีความสะดวกมากกว่าการจัดฟันแบบทั่วไป ที่มีเครื่องมือการจัดฟัน เป็นเหล็กอยู่ภายในช่องปากตลอดเวลา สำหรับการจัดฟันแบบใสนั้น ทันตแพทย์จะทำการวิเคราะห์โครงสร้างของฟันในช่องปากของผู้เข้ารับการรักษา แล้วใช้เครื่องมือสร้างแบบครอบฟันด้วยนวัตกรรมระบบคอมพิวเตอร์เป็นแบบเสมือนกับฟัน


ซึ่งจะเป็นออกแบบเครื่องมือในแบบ 3D โดยจะมีลักษณะเป็นแผ่นโพลิเมอร์ใสๆ บางๆ เมื่อสวมใส่เข้าไปจะรู้สึกกระชับ และเมื่อใส่เข้าไปแล้วถ้าไม่สังเกตก็แทบจะมองไม่เห็นเลย โดยเครื่องมือแบบใส ทันตแพทย์จะทำการเปลี่ยนให้กับผู้เข้ารับการรักษาทุกๆ 2 – 3 สัปดาห์ แล้วแต่กรณี ขึ้นอยู่กับการเปลี่ยนแปลงของสภาพฟันด้วย ซึ่งเครื่องมือการจัดฟันนี้ ทันตแพทย์จะออกแบบมาให้เหมาะกับสภาพฟันของแต่ละบุคคล ซึ่งสภาพฟันของแต่ละบุคคลย่อมแตกต่างกันอยู่แล้ว


เป็นที่ทราบกันดีว่า ในการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการรักษาจะสามารถถอดเครื่องมือการจัดฟันได้ ซึ่งการที่ถอดเครื่องมือการจัฟันได้นี่เอง จึงทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลาย โดยไม่ต้องกังวลว่า เครื่องมือจัดฟันจะหลุดในระหว่างรับประทานอาหาร และไม่ทำให้รู้สึกเจ็บปวดขณะรับประทานอาหารด้วย และเมื่อรับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว สามารถใส่เครื่องมือกลับเข้าไปได้เหมือนเดิม และการถอดและสวมใส่เครื่องมือ ก็สามารถทำได้ง่าย ไม่ต้องออกแรงงัดเครื่องมือแรงๆ และขอบของเครื่องมือทีขอบที่เรียบทำให้ไม่บาดเหงือกหรือกระพุ้งแก้ม เหมือนกับการใส่เหล็กจัดฟันแบบทั่วไป


ดังนั้นการสวมใส่เครื่องมือที่ง่าย และสามารถถอดได้ง่ายนั้น จึงทำให้สะดวกและบางครั้ง อาจจะทำให้ผู้เข้ารับการรักษาเผลอลืมใส่เครื่องมือกลับเข้าไป หลังจากที่รับประทานอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว การใส่เครื่องมือการจัดฟันแบบใส ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยมากๆในการใส่เครื่องมือ เพราะการใส่เครื่องมือนั้น ส่งผลต่อผลการรักษาโดยตรง ผู้เข้ารับการรักษาควรใส่เครื่องมืออย่างน้อยวันละ 20-22 ชั่วโมงต่อวัน ตามคำแนะนำของทันตแพทย์ หากไม่ใส่เครื่องมือตามที่ทันตแพทย์สั่ง อาจจะทำให้ผลการรักษาคลาดเคลื่อนและเห็นผลการรักษาได้ช้าด้วย ดังนั้นผู้เข้ารับการรักษาจะต้องมีวินัยในการใส่เครื่องมือจัดฟัน เพื่อผลการรักษาที่ดี


นอกจากการรับประทานอาหารที่ผู้เข้ารับการรักษาสามารถรับประทานอาหารได้อย่างหลากหลายแล้ว การดื่มเครื่องดื่มก็ถือว่า เป็นเรื่องสำคัญเช่นกัน เพราะการดื่มเครื่องดื่ม ผู้เข้ารับการรักษาจะต้องถอดเครื่องมือการจัดฟันออกเช่นกัน ยกเว้นดื่มน้ำเปล่าที่ไม่ต้องถอดเครื่องมือ ซึ่งข้อปฏิบัติข้อนี้อาจจะส่งผลต่อผู้ที่ชอบดื่มกาแฟตลอดทั้งวัน หรือผู้ที่ต้องดื่มชาในระหว่างวัน ซึ่งการดื่ม ชาหรือกาแฟนั้น จะส่งผลให้เครื่องมือจัดฟันเปลี่ยนสี เพราะฉะนั้น ผู้เข้ารับการจัดฟันแบบใส ควรดื่มน้ำเปล่าเป็นหลัก ควรจะงดเครื่องดื่มที่มีสีที่จะส่งผลให้เครื่องมือเกิดคราบและเปลี่ยนสี เช่น ชา กาปฟ หรือน้ำอัดลม เพราะเครื่องดื่มที่กล่าวมานั้น จะทำให้เกิดคราบที่ผิวฟันและเครื่องมือจัดฟัน ซึ่งอาจจะเป็นสาเหตุที่จะทำให้ผู้เข้ารับการรักษาสูญเสียเงินเพิ่มและอาจจะสูญเสียฟันด้วยเนื่องจากฟันผุ


อย่างไรก็ตาม เครื่องดื่มที่มีความร้อน ก็ส่งผลต่อเครื่องมือเช่นกัน อาจจะทำให้เครื่องมือบิดเบี้ยวได้ เนื่องจากความร้อนนั่นเอง ทั้งนี้ผู้เข้ารับการรักษา ควรที่จะทำความสะอาดเครื่องมือจัดฟันแบบใสให้มีความสะอาดอยู่เสมอ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดคราบและการสะสมของเชื้อแบคทีเรีย โดยวิธีทำความสะอาดนั้นเพียงแค่ใช้น้ำสบู่ล้าง ไม่ควรใช้ยาสีฟันถูเพราะจะทำให้เครื่องมือจัดฟันขุ่น และไม่ควรใช้แปรงสีฟันขัดเครื่องมือ เพราะจะทำให้เกิดรอยบนเครื่องมือได้ เพราะฉะนั้น นี่คือเป็นสาเหตุที่ผู้เข้ารับการรักษาไม่ควรดื่ม เครื่องดื่มประเภท ชา กาแฟ เพราะจะทำให้เกิดคราบและส่งผลให้เครื่องมือเปลี่ยนสี รวมไปถึงยังส่งผลต่อสุขภาพช่องปากอีกด้วย