ผู้เขียน หัวข้อ: หมอออนไลน์: ผมร่วงจากการทำสี  (อ่าน 127 ครั้ง)

siritidaphon

  • Hero Member
  • *****
  • กระทู้: 771
  • รับโปรโมทเว็บ, บริการโพสประกาศ
    • ดูรายละเอียด
หมอออนไลน์: ผมร่วงจากการทำสี
« เมื่อ: วันที่ 18 มิถุนายน 2025, 14:27:37 น. »
หมอออนไลน์: ผมร่วงจากการทำสี

การทำสีผมเป็นเรื่องปกติและเป็นวิธีที่ดีในการเปลี่ยนลุค แต่บางครั้งก็อาจทำให้เกิดปัญหาผมร่วงตามมาได้ครับ โดยทั่วไปแล้ว ผมร่วงจากการทำสีมักจะเกิดจาก ความเสียหายของเส้นผมและหนังศีรษะ มากกว่าที่จะทำให้เกิดผมร่วงจากรากผมโดยตรง

สาเหตุหลักของผมร่วงจากการทำสี

สารเคมีรุนแรง:

ไฮโดรเจนเปอร์ออกไซด์ (Hydrogen Peroxide): เป็นส่วนประกอบหลักในน้ำยาฟอกสีผมและน้ำยาย้อมสีผมแบบถาวร มีฤทธิ์กัดกร่อนและทำลายโปรตีนเคราตินในเส้นผม ทำให้โครงสร้างผมอ่อนแอลง เปราะบาง และขาดง่าย
แอมโมเนีย (Ammonia): ช่วยเปิดเกล็ดผมเพื่อให้เม็ดสีซึมเข้าไป ทำให้ผมแห้งและเสียหายได้
พาราฟีนิลีนไดอะมีน (Para-phenylenediamine - PPD): สารที่ทำให้เกิดสี เป็นสารก่อภูมิแพ้ที่อาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองอย่างรุนแรง และอาจเป็นสาเหตุของผมร่วงเฉพาะจุด (Alopecia Areata) ในบางราย

ความร้อนสูง:

การใช้ความร้อนในการทำสีผม เช่น การอบไอน้ำ หรือการใช้ไดร์เป่าผมและอุปกรณ์จัดแต่งทรงผมที่มีความร้อนสูงหลังจากทำสี ยิ่งทำให้ผมแห้งเสียและเปราะขาดง่ายขึ้น

การทำซ้ำบ่อยเกินไป:

การทำสีผมบ่อยครั้งเกินไป โดยเฉพาะการฟอกสีผมหลายครั้งในเวลาอันสั้น ทำให้ผมได้รับสารเคมีสะสมมากเกินไป ส่งผลให้ผมเสียสะสมและขาดร่วง


เทคนิคการทำสีที่ไม่ถูกต้อง:

ช่างทำผมที่ไม่มีความชำนาญอาจใช้ผลิตภัณฑ์ผิดวิธี หรือทิ้งน้ำยาไว้นานเกินไป ทำให้ผมถูกทำลายมากเกินไป
การสัมผัสสารเคมีโดยตรงกับหนังศีรษะเป็นเวลานาน อาจทำให้หนังศีรษะระคายเคืองและอักเสบ
หนังศีรษะอักเสบ หรือแพ้สารเคมี:

บางคนอาจมีอาการแพ้สารเคมีในน้ำยาทำสี ทำให้หนังศีรษะแดง คัน เป็นผื่นพุพอง หรือมีอาการแสบร้อนอย่างรุนแรง ซึ่งอาจนำไปสู่การอักเสบของรูขุมขนและผมร่วงได้


ลักษณะของผมร่วงจากการทำสี
ผมขาดร่วง (Hair Breakage): เป็นลักษณะที่พบบ่อยที่สุด เส้นผมจะขาดจากกลางเส้นหรือใกล้โคนผม เนื่องจากผมอ่อนแอ เปราะบาง ไม่ได้หลุดร่วงจากรากผม
ผมร่วงทั้งเส้นจากราก (Hair Shedding): ในบางกรณีที่สารเคมีทำลายหนังศีรษะและรูขุมขนอย่างรุนแรง อาจทำให้ผมหลุดร่วงจากรากได้
หนังศีรษะอักเสบ แดง คัน เป็นขุย: บ่งบอกถึงการระคายเคืองหรือแพ้สารเคมี


วิธีป้องกันและดูแลรักษา
ทดสอบการแพ้ (Patch Test): ก่อนทำสีผมทุกครั้ง ควรทดสอบผลิตภัณฑ์เล็กน้อยบริเวณข้อพับแขนหรือหลังใบหู 48 ชั่วโมง เพื่อดูว่ามีอาการแพ้หรือไม่
เลือกผลิตภัณฑ์ทำสีที่มีคุณภาพ: เลือกผลิตภัณฑ์ที่มีส่วนผสมจากธรรมชาติ หรือปราศจากแอมโมเนียและ PPD หากเป็นไปได้


ทำสีผมอย่างถูกวิธี:

ปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญ: ให้ช่างประเมินสภาพเส้นผมและหนังศีรษะก่อนทำสี
เว้นระยะการทำสี: ไม่ควรทำสีผมบ่อยเกินไป ควรเว้นระยะอย่างน้อย 4-6 สัปดาห์ หรือนานกว่านั้นหากมีการฟอกสี
หลีกเลี่ยงการลงน้ำยาที่โคนผมบ่อยๆ: หากย้อมผมสีเดิม ควรลงน้ำยาเฉพาะบริเวณผมงอกใหม่ เพื่อลดการสัมผัสสารเคมีซ้ำๆ บนเส้นผมที่เคยทำสีมาแล้ว


บำรุงผมอย่างเข้มข้น:

ใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับผมทำสี: แชมพู ครีมนวดผม ที่ช่วยบำรุงและปกป้องสีผม
หมักผม/มาสก์ผม: ใช้ทรีตเมนต์บำรุงผมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 1-2 ครั้ง เพื่อฟื้นฟูเส้นผมที่แห้งเสีย
ใช้ออยล์บำรุงผม: เช่น Argan Oil, Coconut Oil เพื่อเพิ่มความชุ่มชื้น
หลีกเลี่ยงความร้อน: ลดการใช้ไดร์เป่าผมความร้อนสูง, เครื่องหนีบผม, หรือเครื่องม้วนผมบ่อยๆ หากจำเป็นต้องใช้ ควรใช้สเปรย์ป้องกันความร้อน
ดูแลหนังศีรษะ: ใช้แชมพูที่อ่อนโยนต่อหนังศีรษะ และนวดบำรุงหนังศีรษะเบาๆ เพื่อกระตุ้นการไหลเวียนโลหิต
รับประทานอาหารที่มีประโยชน์: เน้นโปรตีน วิตามิน และแร่ธาตุที่จำเป็นต่อการเจริญเติบโตของเส้นผม เช่น ไบโอติน ซิงค์ เหล็ก
หยุดทำสีชั่วคราว: หากผมร่วงรุนแรง หรือหนังศีรษะอักเสบ ควรหยุดทำสีผม และปรึกษาแพทย์ผิวหนังเพื่อวินิจฉัยและรักษา

หากผมร่วงจากการทำสีอย่างผิดปกติ หรือมีอาการอักเสบของหนังศีรษะรุนแรง ควรปรึกษาแพทย์ผิวหนัง เพื่อรับการวินิจฉัยและรักษาที่ถูกต้องครับ